ดังแค่ไหนก็ไม่เกี่ยว “แบงค์ วงแคลช” ขอเลือกใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย พูดได้ว่าเป็นศิลปินแนวหน้าอีกผู้ที่เคยมีชื่อเสียงโด่งดังมากมาย สำหรับ “แบงค์ ปรีติ” หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ “แบงค์ วงแคลช”

นักร้องเสียงหล่อขวัญใจของคนอีกหลายคน โดยตอนนี้เจ้าตัวมีอายุเกือบจะเข้าหลักสี่แล้ว ดังนี้คุณแบงค์ก้าวเข้าสู่วงการบันเทิงจากการประกวดวงดนตรีซึ่งตอนที่เจ้าตัวเป็นหนุ่มๆและก็แน่นอนว่า

เขาได้รับรางวัลนักร้องนำชายยอดเยี่ยม แม้ว่าวงดนตรีจะไม่ได้อันดับที่หนึ่ง แต่ว่าน้ำเสียงรวมทั้งลีลาการแสดงของเขาถูกใจผู้ใหญ่หลายคนจากแกรมมี่เป็นอย่างยิ่ง

ทั้งนี้แฟนเพลงหลายคนบางทีอาจจะเคยได้เห็นคุณแบงค์ในคราบของการเป็นนักร้อง แต่ว่าในชีวิ จริง อีกมุมหนึ่ง เจ้าตัวเลือกที่จะใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย สมถะ ต่อให้มีชื่อเสียงที่ดังจนกระทั่งเป็นที่รู้จักไปทั่ว

ไม่แปลกใจเลยว่าเพราะเหตุใดหลายคนนอกจากจะชื่นชอบเพลงของเขาแล้ว ยังเป็นที่รักของคนอีกหลายคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งแฟนคลับ เป็นนักร้องหนุ่มร็อก ที่เป็นขวัญใจของคนอีกหลายคน สำหรับหนุ่ม แบงค์ วงCLASH หรือ แบงค์ ปรีติ บารมีอนันต์

รวมทั้งก่อนหน้าที่ผ่านมาเมื่อไม่กี่วันก่อน หนุ่มแบงค์ ได้ลงเนื้อความถามแฟนๆเอาไว้ว่า “ผมเป็นคนเช่นไร จงอธิบาย” ซึ่งก็มีเหบ่าแฟนๆ ที่ติดตามหนุ่มแบงค์มานาน ก็ได้เข้าตอบ ไปอธิบายมากมาย

รวมทั้งปัจจุบัน หนุ่มแบงค์ ก็ได้สรุปมา 6 ข้อใหญ่ๆในมุมมองที่แฟนๆคิด นำมาบอกกล่าวตัวตนผ่านไอจี โดยระบุว่า 1. ผมไม่มีการศึกษาเท่าที่ควร ฝั่งหนึ่งผมดีใจที่รู้ตัวเองเร็ว…อีกฝั่งหนึ่งผมเสียใจที่ทำตามรูปแบบของลูกชายคนโตได้ไม่ครบถ้วน

และไม่ “สง่างาม” ในการศึกษาเรียนรู้เล่าเรียนก่อนหน้านี้…สิ่งนั้นเองที่ทำให้ผมอ่านหนังสือมากมายและก็อ่านหนังสือพิมพ์จนจบเล่มเสมอเพื่อเติมเต็ม แต่ว่าในวันนี้จะต้องแยกแยะอ่านเพื่อเป็นกลาง แล้วก็จะต้องฉลาด

2. ผมไม่ใช่คนอบอุ่น ผมไม่เคยส่งดอกไม้หรือกระเช้าในวันเทศกาลใดๆให้กับผู้ใหญ่หรือรุ่นพี่สุดที่รักแบบคนทั่วไปทำ…มองไม่ใส่ใจไม่มีซึ่งอารยะ แต่ว่าผมมักให้หัวใจไปก่อนเสมอ…แล้วผมไม่เอาคืน ผมไม่กอดใครง่ายๆนอกจากแฟนเพลงครอบครัววงแคลชแค่นั้น

3. ผมไม่ใช่คนโลกส่วนตัวสูง ผมเพียงแค่เลือกคนคบ….ถ้าหากผมไม่ได้ไปไหนเลย หมายความว่า “ไม่มีเพื่อนดีๆให้ผมไปด้วยเลยเพราะเหตุว่าเขาเหล่านั้นไม่ว่าง” และก็ผมทำกิจกรรมคนเดียวได้อย่างดีมากมาย บ้านเป็นความร่มใจ คุณย่ายืน 1 หมา 2 ตัว แมว 5

นาย….ผมจะเหงาได้อย่างไร 4. ผมไม่ใช่คนหล่ออะไรทั้งนั้น จมูกที่บานขนาดเอานิ้วโป้งใส่เข้าไปได้โดยไม่ลำบาก ผิวสีเเทนที่ผมรักเพราะว่าแม่ให้มาบวกกับความเหลี่ยมของหน้าที่ไม่สมทรงในจริตของสาวไทย….นี่เป็นคำตอบ

5. ผมไม่ใช่คนเข้าถึงยาก เพราะว่าผมไม่ให้ใครเข้าถึงก็เพียงเท่านั้น เฉกเช่นข้อ 3 ผมไม่มีม่านหมอกมาฉาบหลอก….มีเเค่ 2 อย่างคือเปิดและก็ปิด….และก็แน่นอนเวลาผมเปิดใจให้ใคร 30% มักจะย้อนกลับมาทำร้ๅยตัวเองเสมอ….ยกเว้นแฟนๆ

ครอบครัววงแคลชซึ่งผมจะเปิดแย้มไว้เสมอเพื่อพร้อมง้างออก….แล้วก็วันนี้ผมยิ้มเยอะขึ้นมาก 6. ผมไม่ใช่คนดี ความใส่ใจและก็กตัญญูต่อพ่อแม่ที่มีหลายๆคนชื่นชมนั้นผมไม่ได้ภูมิใจอะไรเพราะว่ามันเป็นเรื่อง “ธรรมดาทั่วไป” ของมนุษย์ที่จะต้องทำ….

ไม่ใช่เรื่องพิเศษ….รางวัลลูกกตัญญูแห่งชาติผมไม่สมควรได้รับ เพราะว่าผมพ่ายแพ้ให้กับเด็กน้อยที่ช่วยแม่ขายอาหารในตลาดก่อนไปโรงเรียนในตอนเช้า เด็กๆเหล่านั้นสมควรได้ไม่ใช่คนมีชื่อเสียง มีอย่างเดียวที่ผมมั่นใจเป็นความเป็นธรรมชาติของผม

ยิ้มเมื่ออยากยิ้ม นิ่งเมื่อข้นคิด ดีดเมื่อผ่อนคลาย ความไม่เฟคเป็นข้อเดียวที่ดีของปรีติ….และก็ผมลืมคำหนึ่งไปแลัวกับคำที่ว่า “ก็ผมเป็นของผมแบบนี้ใครจะทำไม” โนววววววว…..ผมจะต้องเป็นคนที่ดีขึ้นกว่าเดิมสิ”