
เรียกว่าหายหน้าหายตาไปนานหลายปีเลยทัเดียว สำหรับ ‘มอร์ริส เค’ หรือชื่อเต็มว่า ‘มอร์ริสเค คริสตชน’ ดารา นายแบบ

และพิธีกรลูกครึ่งไทย-อเมริกัน ที่ไปสู่วงการจากการประกวดโดมอนแมนเมื่อปี พ.ศ. 2531 และได้ตำแหน่งรองอันดับหนึ่ง

หลังจากนั้นก็เลยเป็นหนึ่งในพิธีกรของรายการแบบว่า ‘โลกเบี้ยว’ ร่วมกับ ‘ภิญโญ รู้ธรรม’, ‘ยุวดี เรืองฉาย’ และก็ ‘ก้าว พึ่งบางกรวย’

ต่อมาได้แสดงภาพยนตร์รวมถึงละคร พร้อมกับการเป็นพิธีกรในรายการต่างๆจนกระทั่งปัจจุบันนี้ ถึงแม้พักหลังจะห่างหายจากเบื้องหน้าไป

แต่ว่าก็ดูเหมือนดาราคนนี้ก็ไม่เคยหยุดนิ่งมีนั่นมีนี่ทำเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจป้ามอร์หมูสะเต๊ะ ที่น่าจะเป็นสิ่งพิสูจน์ความสนใจและความสามารถการทำอาหารของเจ้าตัว

เรียกว่าทั้งเก่งและก็ขยันมากจริงๆแต่ถึงงั้นก็ไม่วาย ถูกหลายคนพูดจาดูถูกว่าเจ้าตัวนั้นเป็นดาราตกกระป๋อง ไม่มีงานจนกว่าจะต้องมาเป็นพ่อค้า

“ผมรู้สึกว่าเป็นสัจจธรรม มีขึ้นก็มีลง แต่ทำเช่นไรที่เราทำตัวไม่ให้เดือดร้อนคนอื่น มีคุณค่า แต่ที่จริงแล้วดาราหรือคนมีชื่อเสียงมาค้าขาย

ผมว่าไม่ใช่เรื่องผิดนะ ในตอนนี้ดาราค้าขายมากนะ ผมกลับรู้สึกว่าดีกว่า ผมไม่แคร์เรื่องพวกนั้นเลยนะที่เม้าท์ว่าตกแล้วจะต้องมาหาทำอะไรพวกนี้

ก็แล้วแต่ เอาที่สบายใจ ส่วนผมก็เดินหน้าถัดไป งานวงการเป็นงานผมรักนะ ผมไม่มองดูเรื่องเงินเป็นเรื่องสำคัญ ผมได้มีโอกาสทำให้ผู้ชมมีความสุข

เวลาเขาดูแล้วยิ้ม ผมภูมิใจนะที่ทำให้พวกเขามีความสุขได้ ผมก็ยังทำงานในวงการเหมือนเดิม มีงานละครที่กำลังจะออกอากาศ แล้วก็ผันตัวเอง

มาธุรกิจเป็นหลัก เราจะต้องเข้าใจว่างานในวงการบันเทิงเราทำมานานแล้ว 30 กว่าปีแแล้ว นานมากแล้ว ( ลากเสียงยาว ) ผมมีความคิดว่า

ต้องการจะทำอะไรที่ชอบด้วย ทำอาหาร ทำหมูสเต๊ะ เป็นสิ่งที่เราชอบ และอีกอย่างหนึ่งเวลาจะไปไหนมาไหนก็สะดวก

เนื่องจากผมตั้งเป้าว่าช่วงท้ายๆของชีวิตต้องการเป็นนักท่องเที่ยว แต่ว่าเราก็ต้องหาเงินเก่งด้วย ผมเป็นคนชอบท่องเที่ยวมากมาย

ทำงานหาเงินมาก็ไปเที่ยว ไปดำน้ำ กิจกรรมผมมากมาย แต่ก็คิดว่ายังเที่ยวไม่จุใจเลย ในมาดพ่อค้าก็โอเคอยู่นะ

เพิ่งเริ่มๆผมคิดว่าจะสู้ให้เต็มที่ให้ถูกปากถูกใจลูกค้า จะต้องสร้างรายได้เดือนละเป็นล้านถึงจะประสบความสำเร็จ สำหรับตัวผมนะ”
